ขอโทษทีนะคะที่กลับมาช้าไปหน่อย ชีวิตนี่มันวุ่นวายจริงๆ มีเรื่องต้องทำเยอะแยะไปหมด แต่ก็ปล่อยๆ มันไปเถอะเนอะ กลับมาเที่ยวกันต่อดีกว่า
สำหรับเรื่องวันนี้เราจะพาไปเที่ยวมาเก๊าแบบไม่เสียค่ารถสักบาทกัน ก็อย่างที่รู้กันว่ามาเก๊ามันเป็นเกาะเล็กๆ แล้วสถานที่ส่วนใหญ่ก็อยู่ใกล้ๆ กัน สามารถเดินถึงกันได้ หรือนั่งรถฟรีกันได้ เพื่อนๆที่คิดว่ามาเที่ยวมาเก๊าแล้วจะนั่งรถแท็กซี่ไปสถานที่ต่างๆ แนะนำคิดให้ดีดีก่อนนะคะ เพราะมาเก๊าเป็นถนนวันเวย์เยอะเลย กลัวจะเสียค่าแท็กซี่แพงเอา
เริ่มต้นวันนี้เราตั้งใจกันว่าจะไปเที่ยวซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลกันก่อน โรงแรมHotel Royal จะอยู่บนถนน estrada da victoria และฝั่งตรงข้ามโรงแรมจะเป็นสวนสาธารณะ Vasco Da Gama garden เราเดินผ่านสวนมาฝั่งตรงข้าม ผ่ากลางสวนมาเลยนะ ฝั่งตรงข้ามจะเจอซอยหลายซอยหน่อย เราเลือกเดินตรงเข้าถนนที่ชื่อตามในรูปอ่ะ แบบว่าไม่รู้ว่าเค้าอ่านกันว่าไง ในแผนที่จะมีชื่อเป็นภาษาจีนอยู่อ่ะ ก็เดินตรงไปเรื่อยๆ
จริงๆ แล้วสามารถเดินเข้าได้ทุกซอยแหละ มันเชื่อมถึงกันหมด แค่เรารู้ว่าจุดหมายเราอยู่ที่ไหน แต่เช้านี้เราจะแวะชมสถานที่ตามรายทางก่อนถึงโบสถ์เซนต์ปอลกัน ระหว่างทางเราจะเจอถนนเป็นแบบนี้หมดเลย
ซอยเล็กซอยน้อยก็จะเจอถนนสวยๆแบบนี้
ตึกนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นตึกอะไรเห็นสวยดี
มาถึงโบสถ์แรกกันก่อนเลย โบสถ์นี้ชื่อว่า St.Lazarus Church ด้านข้างโบสถ์จะเป็น Fundo De Seguranca Social
เข้าไปไหว้พระคริสต์ในโบสถ์กัน
บรรยากาศภายในโบสถ์เข้าไปเค้ากำลังทำพิธีอะไรไม่รู้ แบบว่าไม่ใช่คริสต์อ่ะ เลยไม่เข้าใจ
โบสถ์นี้ก็สวยงามระดับหนึ่ง
บริเวณรอบๆโบสถ์
ตึกจะดูมีเอกลักษณ์ สไตล์เก่าๆ น่าถ่ายรูปมากๆ แต่จะบอกว่าถ่ายรูปตึกสวยๆ ไปแต่ไม่รู้หรอกว่าเป็นตึกอะไร
ถ่ายรูปในโบสถ์กันเสร็จแล้ว เราก็เดินตรงขึ้นมาเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้ายแล้วเดินตามถนนเรื่อยๆ แล้วจะเจอ สุสาน 555 เข้าโบสถ์เสร็จมาสุสานเลย แถมไปตอนเช้า เงียบมากๆ ภายในสุสานจะมีโบสถ์เล็กๆอยู่ข้างด้วย
จริงๆ เค้าห้ามถ่ายรูป แต่ขอสักช็อตนะไม่มีใครเห็นอ่ะ
หลังจากออกจากสุสานก็เดินตรงไปเรื่อยๆ ไม่ไกลเท่าไหร่จะเจอวงเวียน แถวนั้นมีร้านข้าวอร่อยอยู่ร้านนึง หน้าร้านมีเป็นภาษาจีนอ่ะ แต่เขียนไว้แนวแบบมีโจ๊กขายไรประมาณนั้นอ่ะ ชานมอร่อย แนะนำ
กินอิ่มแล้วก็เดินตรงไปกันต่อ งานนี้ตรงอย่างเดียวเลย ไปง่ายมาก ระหว่างทางไม่มีอะไรให้ชม แต่ระหว่างที่เดินมาได้สักพัก เกือบจะถึงพิพิธภัณฑ์อยู่แล้วเชียว ฝนเทซะอย่างงั้น สงสัยพระเจ้าลงโทษ ที่ไปถ่ายรูปที่สุสานมา อร๊ายยยยยย เค้าขอโทษ ยืนรอฝนหยุดสักครึ่งชั่วโมงได้ ยังโชคดีที่ทางเดินแถวนั้นยังพอมีที่ให้หลบฝน พอฝนหยุดเราก็เดินกันต่อ จะรู้ได้ยังไงว่าถึงพิพิธภัณฑ์แล้ว ง่ายมาก ถ้าไปกลางวันนะ คนมหาศาล รถทัวร์จอดกันบนถนนเส้นนี้เป็นแถว ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะหลง 555 พอเจอพิพิธภัณฑ์ให้เลี้ยวซ้ายเลย ประตูโบสถ์จะประจักษ์แก่สายตาท่านพร้อมคลื่นมหาชนชาวนักท่องเที่ยว 555 ดูรูปยืนยันได้
ภาพนี้ถ่ายจากด้านบนหน้าประตูโบสถ์เซนต์ปอล
ด้านล่างจะเป็นถนนคนเดิน มีของขายเยอะแยะมากมาย ทั้งของกินของที่ระลึก
มาดูหลังโบสถ์กันบ้าง
เค้าทำเหล็กค้ำไว้
ด้านข้างซากประตูโบสถ์จะมีป้อมปืนใหญ่อยู่ขี้ไปเที่ยวชมได้ ดูผู้คนสิเยอะแยะมากมายขนาดนี้
เราเดินไปดูบนป้อมปืนกันดีกว่า
เดินตามทางเดินขึ้นมาจะมีสนามเด็กเล่นเล็กๆด้วย แล้วก็จะมีบันไดทางขึ้นมาชมวิวด้านบน จะมีประตูที่มีทางเดินแบบด้านล่างเนี้ย ก็เดินเข้ามาเลยเลี้ยวขวาขึ้นมาชมวิวเมืองกัน
อย่างที่เคยเป็นเมืองขึ้นของโปรตุเกสมาก่อน ศาสนาคริสต์เลยมีอิทธิพลแพร่หลายมากที่มาเก๊า
อันนี้ไม่รู้ว่าเค้ามาเรียงไว้ทำไม ใครรู้บอกกันบ้างนะ
พิพิธภัณฑ์มาเก๊า ใครสนใจเข้าไปชมได้แต่เราไม่ค่อยนิยมชมพิพิธภัณฑ์เท่าไหร่ ขอเป็นวิวดีกว่านะ
อย่างที่บอกว่าฝนเพิ่งหยุดตก วิวเลยได้เป็นสีเทาแบบนี้ เสียใจนะเนี่ย
ปืนใหญ่บนนี้หันไปทางตึกโรงแรมแกรนด์ลิสบัวพอดี บรรจุกระสุน ยิงได้
เดินชมวิวกันพอหอมปากหอมคอก็ลงมาเดินเล่นหาของกินกัน ของกินที่ขายกันแถวนี้ก็ไม่พ้น ทาร์ตไข่ หมูแผ่น คุ้กกี้ ไรประมาณนั้นอ่ะ
หมูแผ่น ชิมได้ ราคาแพงเหมือนกันนะ
ทาร์ตไข่ถึงจะมีให้เลือกชิมหลายร้านแต่ก็ไม่อร่อยเท่าไหร่หรอก ส่วนใหญ่แป้งจะแห้งๆ แข็งๆ
ผลไม้ก็มีขายนะ แต่แอบแพง
ร้านนี้จะบอกว่าคนต่อแถวซื้อทาร์ตไข่เยอะมาก เพราะอะไรนะเหรอ ก็มันเป็นร้านที่มีในหนังเกาหลีไงเรื่อง f4 อะไรนั่นอ่ะนะถ้าจำไม่ผิด
ถามว่าร้านนี้อร่อยไหม ก็พอกินได้นะ แต่ถ้าถามจริงๆ เคเอฟซีอร่อยกว่าอ่ะ
อันนี้ก็เป็นอีกอันที่นิยมกัน รู้สึกจะเป็นแนวลูกชิ้นต้มพะโล้ไรประมาณนั้นอ่ะ
เราเดินไปตามถนนคนเดินเรื่อยๆ จะเจอซอยเล็กๆ แยกไปโบสถ์แห่งหนึ่ง เดินเลยรูปข้างล่างไปจะเจอโบสถ์
โบสถ์Cathedral กับบรรยากาศรอบๆ ไม่ได้อิจฉานะ แต่วันที่อยู่ที่มาเก๊าสองวันนี่เจอคู่แต่งงานหลายคู่เหลือเกิน ด้านนอกโบสถ์ถ่ายเวดดิ้งกันคู่หนึ่ง
เข้าไปในโบสถ์เจออีกคู่
ไหว้พระคริสต์สักหน่อย (เค้าไม่ได้เป็นคริสต์นะ แต่ก็เหมือนทักทายเจ้าของบ้านอ่ะเนอะ)
ไม่รู้ว่าคริสตชนเค้าจุดบูชาแบบนี้ความหมายเดียวกับที่คนจีนจุดบูชาตามวัดหรือเปล่า
ภายในก็จะมีรูปปั้นนักบุญต่างๆเยอะมาก
ด้านข้างโบสถ์มีบ้านบิชอปอยู่ด้วย
อันนี้นะบ้านบิชอป มีสวนหน้าบ้านดอกไม้เพียบหวานเชียวล่ะ
ฝั่งตรงข้ามโบสถ์จะเป็นสวนหย่อม นั่งเล่นได้
นั่งเก้าอี้ที่สวนหย่อมแล้วถ่ายรูปให้ติดโบสถ์เป็นฉากหลังนะ เหมือนอยู่ยุโรปเลยล่ะ
เราไปกันต่อจากโบสถ์ Cathedral เราก็เดินลงมาเรื่อยๆ ไปชมโบสถ์ที่สวยที่สุดในทริปนี้กัน โบสถ์ St. Dominic
คิดดูสิว่าโบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางสิ่งเย้ายวน กิเลสทั้งนั้น คิดดูว่าในหนึ่งวันนักท่องเที่ยวเข้าโบสถ์หรือ bossini มากกว่ากัน ประมาณวัดปทุม ที่อยู่ระหว่างพารากอนกับเซนทรัลเวิลด์อ่ะ
โบสถ์หลังนี้ยังคงมีการใช้งานอยู่จนถึงปัจจุบัน
ชมบรรยากาศภายในโบสถ์กัน ข้างนอกอึกทึกขนาดไหน แต่ในโบสถ์ก็เงียบสงบดีนะ
ออกจากโบสถ์มาก็ช็อปกันตามสบายนะจ๊ะ มีร้านให้ช็อปเยอะมาก กระเป๋าเบากันเลยทีเดียว เดินจากโบสถ์มาบริเวณที่เป็นจตุรัสเซนาโดที่เค้านิยมไปถ่ายพื้นกันอ่ะนะ ก็ไม่ใช่จะมีแต่พื้นนะที่น่าสนใจ บริเวณรอบๆ ก็มีตึกน่าสนใจเหมือนกันนะ
เท่าที่เดินมาก็รู้สึกว่าถนนหลายซอยบริเวณรอบจตุรัสเซนาโดมีถนนสวยๆ แบบนี้เต็มไปหมดเลย
ชมเมืองกันเยอะแหละ หาอะไรกินกันดีกว่า แน่นอนเราต้องไปหาทาร์ตไข่ร้านดังที่อยู่ละแวกนี้ชื่อว่าร้าน Cafe e Nata Margaret's
จะเดินตามที่ google map แนะนำก็ได้นะไม่ไกลหรอก แต่เราอ่ะ เลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกก่อนแล้วค่อยข้ามถนนมาจะเจอซอยทางเข้าตรงๆ ให้ข้ามถนนตรงหน้าร้านขายขนมเค้กอ่ะ (ร้านเค้าเค้กน่ากินมาก อย่าเพิ่งรีบซื้อนะไปกินทาร์ตไข่กันก่อน) จะเป็นซอยตรงๆเดินเข้าไปเลยจะเจอร้านอยู่ขวามือ ทาร์ตไข่อร่อยสมคำล่ำลือ แต่ยังแพ้ร้าน lord อยู่ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปกินร้าน lord กัน
กินของหวานแล้วอยากกินของคาว ระหว่างเดินไปห้างดูฟ้าสิ ใสเชียว เสียใจ เมื่อเช้าได้วิวสีเทามา พอมาเดินพื้นล่าง ฟ้าใส เรามากินข้าวที่ new yaohan กันก่อน จะตามมากินที่เดียวกันก็ได้นะ ไม่ต้องเดินตาม google นะมันไกล เดินออกจากร้านทาร์ตไข่ ตรงๆมาเลย ข้ามถนน ข้ามถนนมาเลย
หลังจากตากแอร์อิ่มหนำแล้วเราก็ไปกันต่อ แน่นอนว่า ที่เราจะไปเที่ยวต่อ เราก็จะต้องไปฟรี เราตั้งใจกันว่าจะไปเที่ยวโรงแรมคาสิโนทั้งหลาย ระหว่างทางเดินไปหารถฟรี เจองานอะไรสักอย่างแนวเหมือนกินเจอ่ะ แต่ไม่รู้ว่างานอะไร มีเด็กๆ มาแสดงรำดาบรำกระบอง กันด้วย
เราเลือกมาขึ้นรถฟรีของโรงแรม sintra ด้วยว่ามันอยู่แถวๆนั้น ยังงงตัวเองอยู่ว่าทำไมวันนั้นเลือกนั่งรถของ sintra ทั้งที่ grand emperor อยู่ใกล้กว่าแท้ๆ เรานั่งรถ shuttle bus ไปลงท่าเรือมาเก๊า แล้วไปขึ้นรถของโรงแรมคาสิโนอื่นต่อ เราเลือก city of dream ก่อนเลย
มีนางแบบด้วย
โรงแรมใหญ่ๆ จะอยู่ติดๆ กันหมดเลย เดินเล่นจากโรงแรมนั้นเข้าโรงแรมนี้ได้สบายๆ ทั้ง venetian, sand, four season บลาๆๆ เยอะแยะไปหมด เดินทั้งวันก็ไม่หมดอ่ะ
หลังจากเดินกันจนเหนื่อยแล้ว เพราะเล่นเดินกันทั้งวัน ขากลับ เราก็เลือกรถของโรงแรมไหนก็ได้ละแวกนั้นสักโรงแรม ไปลงที่ ท่าเรือมาเก๊า (ถ้านั่งรถของโรงแรม sand เค้ามีของที่ระลึกแจกด้วยนะ ) พอมาถึงท่าเรือมาเก๊าเราก็นั่งรถโรงแรมตัวเองกลับไปนอน 555 น้ำหนักลดกันเลยทีเดียว เดินเยอะไปหน่อย แต่วันนี้เราไม่เสียค่ารถสักบาทสุดคุ้มอ่ะ
