ระหว่างทางก็จะผ่านทุ่งนา ผ่านเขาไปหลายลูก ผ่านทั้งร้อนทั้งฝน ครบครันกันไปเลย หากใครมาเที่ยวแล้วยังไมได้แลกตังค์มาแลกที่ร้านแถวๆด่านก็ได้นะ เรทพอกับsuperrich เลย หรือหากใครลืมซื้อของส่วนตัวอะไรมาก็สามารถแวะหาซื้อได้ที่ Kompleks Changloon จะอยู่ไม่ไกลจากชายแดนมาเลย์เท่าไหร่อยู่ใกล้ๆกับมหาวิทยาลัยUtara ที่นี่มีร้านขายของเยอะแยะมากมาย watson ก็มีนะ
วิวสองข้างทาง
ระหว่างทางเราได้ไปแวะร้านคนไทยกันด้วย ร้านใหญ่พอสมควร ขายอาหารไทย พนักงานพูดไทยได้บ้างแต่ไม่ชัดเท่าไหร่ อาหารก็ไม่ได้เลิศมากแต่ก็โอเค ราคารับได้ ใครผ่านไปลองไปชิมดูได้นะจ๊ะ อันนี้เวปของร้านจ้า http://www.khunthai.com/
กุ้งมองหน้า
อาหารทะเลทั้งหลายทั้งกุ้งกั้งปลา นอนรอเวลาอยู่ในบ่อ เค้าขอโทษนะที่กินตัวเอง
ภาพนี้คงอธิบายได้ว่าหิวขนาดไหน
พอหลังจากอิ่มกันแล้วก็นั่งกันต่ออีกยาวไกล แต่วิวสองข้างทางก็สวยดี ออกแนวชนบทมากๆ(คือไม่มีอะไรจะดูนอกจากทุ่งนา 555) ระหว่างทางจะมีจุดพักรถเป็นระยะๆ บางจุดก็จะเป็นจุดพักที่ใหญ๋หน่อยมีอาหารขาย บางที่ก็จะเป็นจุดพักเล็ก จุดสังเกตุว่าจะถึงจุดพักรถก็คือป้ายแบบนี้จ๊ะ
ภายในจุดพักรถที่แวะอันนี้จำไม่ได้ว่าอยู่ช่วงไหน แต่ขายผลไม้กันเยอะมากๆๆๆ ทุกร้านขายเหมือนๆกันเลย ราคาพอสมควร ผลไม้ก็หน้าตาเหมือนบ้านเรา เพราะเค้าก็ปลูกผลไม้เหมือนบ้านเรามีทั้งกล้วย เงาะ ทุเรียน ปาล์มซึ่งจะเห็นได้ตลอดสองข้างทาง
เช่นเจ้านี่คือเงาะป่าคะ
เราจะต้องผ่านอุโมงค์กันด้วยนะ แต่เป็นอุโมงค์สั้นๆ นิดเดียวเอง
ภายในอุโมงค์
พอผ่าน Ipoh มาจะเจอฝนเรื่อยๆเลย บางช่วงก็ตกหนัก บางช่วงก็ถนนแห้งสนิท
หาอะไรทำแก้เบื่อระหว่างทาง ด้วยการถ่ายรูปรถและฝน แบบ Black &White
หนทางเรายังอีกยาวไกลนัก เราจะขับผ่านกัวลาลัมเปอร์ไปก่อนแล้ว จากกัวลาลัมเปอร์ไปเมืองใหม่Putrajaya ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ที่เมืองใหม่นี้จะมีสถานที่ราชการอยู่หลายแห่ง มีสถานที่สวยๆ มากมาย เสียดายแต่ว่าตอนเราไปถึงมันเย็นแล้ว เที่ยวได้นิดเดียวก็ต้องรีบออกมาเพราะว่าจองโรงแรมที่กัวลาลัมเปอร์ไว้
ที่เห็นตึกด้านหลังนั่นคือแฟล็ตข้าราชการ ดูดีกว่าบ้านเราเยอะเลยเนอะ
มัสยิดสีชมพูหรือ Putra Mosque ถ่ายจากบนสะพานสวยๆ ข้างล่างนี้
สะพานนี้ชื่อว่าสะพานSeri Wawasan bridge เป็นสะพานหลักในเมืองใหม่ ซึ่งมีความสูง 240 เมตร และกว้าง 37.2 เมตร ยาว 168.5 เมตร ออกแบบโดย Putrajaya Corporation และเปิดใช้งานเมื่อปี 2003
ที่ปลายสะพานนี้เราจะเห็นตึกสวยๆ แบบนี้ เป็นตึกของกระทรวงการคลังคะ
มาถึงนี่แล้วก็ต้องเข้าไปชมความงามของ มัสยิดสีชมพูหรือ Putra Mosque กันใกล้ๆหน่อย มัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1997 และเสร็จในปี 1999 โดยใช้งบประมาณในการสร้างสูงถึง 250 ล้านริงกิตเลยทีเดียว ด้านข้างของมัสยิดมีร้านอาหารและของขาย มีที่นั่งพักชมวิวโรแมนติกๆ ด้วยนะ ลงบันไดเลื่อนลงไปสองชั้นนะจ๊ะ
ใครที่อยากจะเข้าไปชมภายในมัสยิดแนะนำดูเวลามาด้วยนะ พวกเรามากันเย็นไปหน่อย หมดเวลาเข้าชมแล้ว แต่ถ้าใครจะเข้าไปละหมาดละก็ได้อยู่นะ
ที่อยู่ถัดจากมัสยิดสีชมพูก็คือ Perdana Putra ทำเนียบรัฐบาล เป็นที่ตั้งของหน่วยงานรัฐและสำนักงานของรัฐบาล ตอนกลางคืนที่มัสยิดจะมีการเปิดไฟด้วย จะได้อีกบรรยากาศ แต่พวกเราไม่ได้รอชมเพราะต้องกลับเข้ากัวลาลัมเปอร์กันแล้ว เย็นแล้วและหิวแล้วด้วย(อันนี้สำคัญมาก)
ระหว่างทางกลับจากมัสยิดจะผ่านที่นี่ด้วย palace of justice หรือเรียกแบบมาเลย์คือ Istana Kehakiman ก็คือเป็นศาลประมาณนั้น
จากนั้นพวกเราก็กลับเข้ากัวลาลัมเปอร์ คืนนี้เราจะนอนกันที่ โรงแรม TTanz อยู่ในแถว Chow kit แต่ถ้ามาจากmrt เดินไกลนิดนึง
ฝั่งตรงข้ามมี 7-11แต่ของน้อยไปนิดและมีแมวกวักอยู่หน้าโรงแรมด้วย555
เลยไปหน่อยตรงหัวมุมถนนจะเป็นโรงแรม Tune
ห้องพักโอเคนะ
แต่ให้ดูรูปนี้ สังเกตตรงรอยต่อของมู่ลี่ มันมีช่องว่างที่เพื่อนร่วมห้องเราสามารถส่องได้เวลาเรานอนแช่อ่างน้ำ 555 และขอบอกว่ามันเป็นแบบนี้ทุกห้องเท่าที่ถามคนที่ไปด้วยอ่ะนะ
ดูกันชัดๆมันจะเพิ่มความกว้างอีกสักนิ้วสองนิ้วก็ไม่ได้ ตลกจริงโรงแรมนี้
เวลามาเที่ยวในประเทศอิสลามต้องทำใจนิดนึงเรื่องอาหารที่จะเจอแต่ไก่ และอาหารเช้าของที่นี่ก็จะหนีไม่พ้น nasi lemak เจอทุกโรงแรมแน่นอน และไส้กรอกไก่(จริงๆมันมีแต่แป้งมากกว่า)ไม่อร่อยเลยสักโรงแรม
หลังจากเก็บของเรียบร้อยเราก็ออกไปท่องราตรีกันดีกว่า
มาถึงที่นี่จะไม่ไปถ่ายรูปตึกแฝดก็คงเหมือนจะมาไม่ถึงนะ เราไม่ได้ไปถ่ายกันใกล้ๆ ตึกเพราะมันจะถ่ายลำบากมากจากประสบการณ์ครั้งที่แล้วที่แถบจะลงไปนอนถ่าย เพือ่ให้ได้ยอดตึกด้วย คราวนี้เราเลยมาถ่ายที่ถนนที่ห่างออกมา เลยได้ภาพตึกแบบเต็มๆ ไม่ต้องแหงน ไม่ต้องนอนกล้องกับพื้น
ต่อกันด้วยย่านสุดฮิต Bukit Bintang ที่มีห้าง ห้าง ห้างเต็มไปหมด คนเยอะมากๆๆๆๆ
ดีว่าไปเดือนธันวาคม เลยได้เจอบรรยากาศคริสต์มาสกับเค้าด้วย แต่ละห้างประดับประดาไฟ มีกิจกรรรมเยอะแยะไปหมด และที่สำคัญช่วงปลายปีแบบนี้ มาเลเซีย Year end sale จ้า
ห้างนี้ก็ยอดนิยมจริงๆ
ถ่ายรูปบรรยากาศยามค่ำคืนและหาของกินที่ถูกกว่าบ้านเรา ไม่เข้าใจว่าทำไมมาเลเซียถึงมีของกินถูกกว่าบ้านเรา เช่น แมคโดนัลก็ราคาถูกกว่า, Bread talk ชีสเค้ก ถูกกว่าบ้านเราครึ่งต่อครึ่ง คืนนั้นเลยมีชีสเค้กมากองในท้องเพียบเลย 555
วันแรกของเราก็จบลงพร้อมกับความเหนื่อยที่อยากจะบอกว่าเหนื่อยมาก เมื่อยมาก นั่งอยู่บนรถแทบจะทั้งวัน แต่ก็ได้รสชาดอีกแบบความรู้สึกต่างจากนั่งเครื่องไปลงตัวเมืองเลยมากๆ
รอติดตามวันที่สอง เร็วๆนี้นะจ๊ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น